https://www.youtube.com/watch?v=lNLeRmnkug8
ปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
(สาขาวิชาการออกแบบอุตสาหกรรม)
นายวรรธนะ เจริญนวรัตน์
เกิดวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๓ อายุ ๖๐ ปี
สำเร็จการศึกษา
- ระดับปริญญาโท วิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
ตำแหน่งงานปัจจุบัน
- ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ผลงานด้านวิชาการ
เป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรม แผ่นไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติในประเทศไทย คือ เป็นผู้ผลิตแผ่นไม้ปาร์ติเกิลบอร์ด จากไม้ยางพารา (เป็นรายแรกในโลก) แผ่นไม้เอ็มดีเอฟ และแผ่นไม้โอเอสบี จากไม้ยางพารา ได้นำความเจริญและการพัฒนา รวมถึงรายได้แก่เกษตรกรและชุมชนที่ปลูกไม้ยางพารา โดยการลงทุนส่วนอุตสาหกรรม ในหลายพื้นที่ของประเทศ อาทิเช่น จังหวัดชลบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดสระบุรี ทำรายได้ให้แก่ประชาชน จากเดิมไม้ยางพาราเป็นของเหลือใช้ เกษตรกรต้องเผาทิ้ง เพื่อปลูกทดแทน และได้มีส่วนร่วมในการร่วมพัฒนากับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในประเทศไทย โดยใช้แผ่นไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติ ตั้งแต่แรกเริ่มจนได้รับความไว้วางใจและประสบความสำเร็จ
ผลงานทางสังคม
ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย ๒ สมัย รวมไปถึงได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไม้อัด ไม้บางและวัสดุแผ่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ๒ สมัย ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีคุณภาพอย่างเสมอมา และได้รับรางวัล Prime Minister Award มีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ เกี่ยวกับวัสดุไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติ และได้มีการร่วมมือกับหลายมหาวิทยาลัย อาทิเช่น ความร่วมมือทางวิชาการกับ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และยังคงได้รับเกียรติให้ดำรงประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมไม้อัด ไม้บาง และวัสดุแผ่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย
การมีส่วนร่วมกับมหาวิทยาลัยฯ
ได้รับเกียรติเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ (พ.ศ.๒๕๕๔-๒๕๕๙) และเป็นกรรมการบริหารการเงินและทรัพย์สินประจำ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
จากความสำเร็จในการประกอบอาชีพ
ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ความรู้ ความสามารถ ความมุ่งมั่น ทำให้ประสบความสำเสร็จในการประกอบอาชีพ และมีส่วนร่วมในการอุทิศตนต่อสังคม สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จึงเห็นสมควรมอบปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาวิชาการออกแบบอุตสาหกรรม) เพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป
